เรื่องราวในดินแดนแห่งความสุข
ผู้แต่ง: คินเลย์ ดอร์จิ
ผู้แปล: สดใส ขันติวรพงศ์
บทนำตอนหนึ่งในหนังสือ
ดังที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เกซาร์ นัมเกล วังชุก
“ภูฐานจะไม่มีวันเป็นมหาอำนาจทางการทหาร
หรือเป็นพลังทางเศรษฐกิจ พลังของภูฐานอยู่ที่หลักศีลธรรมซึ่ง
หรือเป็นพลังทางเศรษฐกิจ พลังของภูฐานอยู่ที่หลักศีลธรรมซึ่ง
ทำให้ร าชอาณาจักรเล็กๆ แห่งนี้ เป็นตัวแทนของอุดมคติใหญ่หลวง นั่นคือ ความสุขมวลรวมประชาชาติ
การกล้าที่จะเป็นสิ่งที่แตกต่าง และนำเสนอเป้าหมายอันสูงส่ง
เพื่อความก้าวห น้าของมนุษยชาติให้โลกได้ประจักษ์
ภูฐานจึงต้องทำให้สิ่งนี้เป็นจริงที่บ้าน
ภูฐานจึงต้องทำให้สิ่งนี้เป็นจริงที่บ้าน
ดังที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เกซาร์ นัมเกล วังชุก
ได้ทรงมีพระราชดำรัสแก่ประชาชนในวันที่เสด็จเถลิงราชสมบัติเมื่อปี 2006 ว่า ความล้มเหลวไม่ใช่ทางเลือก”
ผลงานเล่มนี้เป็นการรวบรวมเรื่องสั้น บันทึกความทรงจำ และความเรียงจากประสบการณ์ของดอร์จิ
จำนวน 13 เรื่อง ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดย สดใส ขันติวรพงศ์
ในชื่อ เรื่องราวในดินแดนแห่งความสุข สำนักพิมพ์สวนเงินมีมาพิมพ์ภาษาไทยครั้งแรกเมื่อปี 2552
หนังสืออ่านเพลินไม่อยากวาง มีความซาบซึ้ง แยบยลในการร้อยเรียงเรื่องราว ง่ายและกินใจ
รู้สึกผูกพันกับตัวละครหลายคนในเรื่อง ตั้งแต่เรื่องราวในอดีตจนถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
จำนวน 13 เรื่อง ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดย สดใส ขันติวรพงศ์
ในชื่อ เรื่องราวในดินแดนแห่งความสุข สำนักพิมพ์สวนเงินมีมาพิมพ์ภาษาไทยครั้งแร
หนังสืออ่านเพลินไม่อยากวาง มีความซาบซึ้ง แยบยลในการร้อยเรียงเรื่องราว ง่ายและกินใจ
รู้สึกผูกพันกับตัวละครหลายคนในเรื่อง ตั้งแต่เรื่องราวในอดีตจนถึงเรื่องราวในปั
วิธีการเล่าเรื่องและสาระของเรื่องที่เล่า โดยการวางเนื้อหาและเลือกเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบันของชีวิต
ผู้คน สังคม หมู่บ้านของภูฐาน สาส์นของหนังสือที่แม้ง่ายแต่มีพลังของเรื่องราว
บวกกับความสามารถในการถ่ายทอดและความสวยงามในการเล่าเรื่อง
ช่วยตอกย้ำจุดยืนของสำนักพิมพ์ที่ต้องการนำเสนอเรื่องการพัฒนาที่มาพร้อมกับความทันสมัย
และผลกระทบที่เกิดขึ้น หลายคนบอกว่าเราไม่อาจปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง
แต่เราก็อยากให้กำลังใจกับราชอาณาจักรเล็กๆ แห่งนี้ที่อยู่ขนาบข้างด้วยประเทศมหาอำนาจ
อย่างจีนและอินเดียให้ได้มีโอกาสคัดกรองและเลือกชะตากรรมของประเทศอย่างอิสระ
(เราทราบดีว่าจีนเข้าไปในทิเบตและยัดเยียดความก้าวหน้าที่จีนได้ประโยชน์ โดยอ้างว่าทิเบตล้าหลัง)
ภูฐานตระหนักว่าโลกาภิวัตน์เกิดขึ้นในทุกหนทุกแห่ง และอาจจะไม่สามารถปฏิเสธสิ่งนี้ได้
แต่สังคมภูฐานจะต้องมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนถกเถียงหาความเป็นไปได้ของเขาเอง
เฉกเช่นชนบทและชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย
และราชาธิบดีของภูฐานก็ตอบผู้เชี่ยวชาญ World Bank
เมื่อมาแนะนำให้ประเทศภูฐานที่ได้ชื่อว่าด้อยพัฒนาเร่งเปิดประเทศและพัฒนาในแบบตะวันตก
ราชาธิบดีภูฐานจึงตรัสว่า "ความสุขมวลรวมประชาชาติ (จีเอ็นเอช) สำคัญกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)"
ผู้คน สังคม หมู่บ้านของภูฐาน สาส์นของหนังสือที่แม้ง่ายแต่มีพลังของเรื
บวกกับความสามารถในการถ่ายทอดและความสวยงา
ช่วยตอกย้ำจุดยืนของสำนักพิมพ์ที่ต้องการน
และผลกระทบที่เกิดขึ้น หลายคนบอกว่าเราไม่อาจปฏิเสธการเปลี่ยนแปล
แต่เราก็อยากให้กำลังใจกับราชอาณาจักรเล็ก
อย่างจีนและอินเดียให้ได้มีโอกาสคัดกรองแล
(เราทราบดีว่าจีนเข้าไปในทิเบตและยัดเยียด
ภูฐานตระหนักว่าโลกาภิวัตน์เกิดขึ้นในทุกห
แต่สังคมภูฐานจะต้องมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนถ
เฉกเช่นชนบทและชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย
และราชาธิบดีของภูฐานก็ตอบผู้เชี่ยวชาญ World Bank
เมื่อมาแนะนำให้ประเทศภูฐานที่ได้ชื่อว่าด
ราชาธิบดีภูฐานจึงตรัสว่า "ความสุขมวลรวมประชาชาติ (จีเอ็นเอช) สำคัญกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)"