สมบัติกวี ชุด อิเหนา : ศุภร บุนนาค




วรรณคดีวิจารณ์เรื่องอิเหนา ฉบับพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
โดยเขียนในรูปแบบสนทนากับผู้ฟังโดยใช้วิทยุ ททท. เป็นสื่อ ให้ผู้อ่านเข้าถึงสุนทรียศิลป์
ขยายข้อความต่างๆ ในบทพระราชนิพนธ์ให้ละเอียดและชัดเจนยิ่งขึ้น เขียนโดย ศุภร บุนนาค
ทั้งนี้ ผู้เขียน (ศุภร บุนนาค) เห็นว่าการนำทฤษฎีวรรณคดีวิจารณ์ของนักวิชาการตะวันตก
มาใช้นั้น เราต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องเพราะมีหลายทฤษฎีด้วยกัน
บางทฤษฎีก็คับแคบ เกินไป เช่น กรอบความคิดทาง จิตวิทยา หรือ 'ปมทางเพศ'
หรือกรอบความคิดทางการเมือง ในเรื่อง 'ชนชั้น'

โดยการศึกษาวรรณคดีไทยในลักษณะเช่นนี้ย่อมทำให้เกิดผลเสียได้
นอกจากนี้จะทำให้เราจะมองไม่เห็นคุณค่าของวรรณคดีไทย
จึงจะไม่ได้รับความบันเทิง ทั้งสุนทรียและและความรู้ด้วย






สมบัติกวี ของ ผู้เขียน จึงเป็นวรรณคดีวิจารณ์ ภายใต้กรอบของวัฒนธรรมไทย
ของแต่ละสมัยทั้งด้านความคิดและ การใช้ภาษาเป็นสำคัญ
โดยใช้อเหนาฉบับพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ฯ
ซึ่งพระราชนิพนธ์ฉบับนี้มีทั้งสุทรียศิลป์และส่วนที่เป็นความรู้ควบคู่กัน
ซึ่งตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างอิเหนาและบุษบานั้น เพื่อชี้ให้เห็นถึงสัจจธรรมของชีวิต
ที่ชีวิตมนุษย์นั้นมีทั้งสุขและทุกข์สลับไปกันไป แม้จะต้องยากลำบากเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แต่ด้วยความอดทน และไม่ยอมสิ้นหวังและมุ่งมั่นทำความดี คนทั้งสองก็สามารถเปลี่ยนชะตากรรม
ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์แก่ชีวิตตนได้

(จากคำนำของ ทายาทผู้เขียน ศาตราจารย์ คุณหญิง สุริยา รัตนกุล)

ดั้นดัดลัดเลี้ยวไปต้นธาร หวังมิให้เยาวมาลย์สงสัย
เก็บพรรณมาลีลอยไป แล้วแฝงไม้มองดูเทวี
พักตร์น้องนวลละอองปลั่งเปล่ง ดังดวงจันทร์วันเพ็งประไพศรี
อรชรอ้อนแอ้นทั้งอินทรีย์ ดังกินรีลงสรงคงคาลัย
งามจริงพริ้งพร้อมทั้งสรรพางค์ ไม่ขัดขวางเสียทรงที่ตรงไหน
พิศพลางประดิพัทธ์กำหนัดใน จะใคร่ไปโอบอุ้มองค์มา
ดูเดินดังดำเนินเหมราช งามประหลาดเลิสล้ำเลขา
พิศไหนให้เพลินจำเริญตา พระราชาชมพลางทางถอนใจ
ทั้งสังคามาระตาก็พิศวง พระพี่เลี้ยงงวยงงหลงใหล
มิได้ว่าขานประการใด ตั้งแต่แลดูไปไม่พริบตา


(ตอนบุษบาลงสรง)

วรรคที่เพราะที่สุดอยู่ที่ " ดูเดินดังดำเนินเหมราช งามประหลาดเลิศล้ำเลขา"
คือไม่ใช่งามแต่รูป แต่งามจริต กิริยาด้วย ในขณะนี้บุษบาไม่รู้องค์ว่าใครจะแอบมาดู
จึงไม่มีข้อค่อนแคะได้ว่าใส่จริตทอดกรอ่อนระทวย

ความในจริตกิริยาเป็นของต้องฝึกกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเป็นธรรมชาติอยู่ในตัวแล้ว
ไม่ว่าเวลาไหนก็เคลื่อนไหวไปเป็นธรรมดา ไม่ต้องดัด ไม่ต้องฝืน
ถ้าเป็นการดัดชั่วคราว เพราะรู้ว่าถูกมองก็จะเหมือนกับเอาแป้งมาพอกหน้า
มันจะขาวโพลนน่าเกลียดฉันใด กิริยาที่ดัดขึ้นก็จะน่าเกลียดฉันนั้น
ความงามของบุษบานับว่าเป็นยอดงามในเรื่องนี้ เพราะปรากฎว่า
คนที่พลอยได้ยลโฉมด้วยคือพวกพี่เลี้ยง และสังคมมาระตา
นั่งตะลึงพูดไม่ออก ตาไม่กระพริบ ส่วนอิเหนาก็ได้แต่ถอนใจ
ความงามที่สามารถสะกดคนให้ลืมตัวได้เช่นนี้ ต้องนับว่าเป็นสุดยอดของความงาม
เพราะธรรมดาผู้ชาย แอบดูผู้หญิงอาบน้ำเป็นเรื่องของความกระซิบกระซาบ ลุกลี้ลุกลน
เมื่อนางงาม จน ถึง สะกดความพลุกพล่านของผู้ชายได้ ก็แปลว่าความงามนั้นมีระดับสูงสุดนั่นเอง
ท่านเก็บถ้อยคำไว้สำหรับใช้กับตัวนางเอกให้แปลกกว่านางอื่นๆ หมด จึงยกว่าเป็นยอดกวี